รีวิว Biotin Nature Balance

 Biotin Nature Balance 
วิตามินไบโอติน เพื่อผมสวย เล็บสวย

นอกจากปัญหาผมขาดหลุดร่วงง่ายแล้ว ใครมีปัญหาเล็บเปราะบาง ฉีกง่ายบ้างเอ่ย อยากไว้เล็บยาวสวยๆ แต่ก็ไว้ไม่ได้ดั่งใจ ไปโดนอะไรก็หักก็ฉีกง่ายเหลือเกิน เคยสงสัยกันมั้ยคะว่าเราอาจจะขาดไบโอตินรึเปล่านะ แต่บางคนก็อาจจะยังไม่รู้ว่าไบโอตินนั้นคืออะไร... พาริสได้หาคำตอบโดยย่อมาไว้ให้ในรีวิวฉบับนี้แล้วค่ะ 

ไบโอติน (Biotin) คือ วิตามินชนิดหนึ่งที่ละลายน้ำได้ หรือที่รู้จักกันในชื่ออื่น ๆ ว่า Vitamin H หรือ Vitamin B7 เริ่มคุ้น ๆ กันแล้วใช่มั้ยคะสำหรับชื่อนี้ แล้วไบโอตินมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับอาการผมร่วงและเล็บฉีกง่ายกัน ซึ่งนั่นก็เพราะว่าเจ้าวิตามินไบโอตินตัวนี้นี่ มีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพผม ผิวหนัง และเล็บของเรามากๆ โดยที่เจ้าไบโอตินมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างโครงสร้างของเคราตินให้แข็งแรง เพราะเส้นผม ผิวหนัง และเล็บของเราประกอบขึ้นจากโปรตีนเคราตินเป็นหลัก การขาดไบโอตินจึงส่งผลกระทบต่อการสร้างเคราตินโดยตรง จึงทำให้สุขภาพเส้นผม ผิวหนัง และเล็บอ่อนแอลงได้นั่นเองค่ะ

**อ้างอิงข้อมูลเรื่องไบโอตินจาก https://www.pobpad.com/

วันนี้พาริสจะมารีวิวแนะนำวิตามินไบโอตินค่ะ โดยวิตามินไบโอตินที่พาริสได้นำมารีวิววันนี้นั้น คือ Nature Balance Biotin ตัวนี้ค่ะ เดี๋ยวเรามาดูรายละเอียดโดยรวมของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตัวนี้กันค่ะ เลื่อนตามพาริสลงมาด้านล่างนี้เลย..... 

Nature Balance Biotin 

ไบโอตินเนเจอร์บาลานซ์

กระปุก 60 เม็ด  ราคา 450 บาท

ไบโอตินเนอเจอร์บาลานซ์ใน 1 แคปซูล ประกอบด้วยไบโอติน 600 ไมโครกรัม ซึ่งมีสรรพคุณที่ช่วยในการป้องกันและรักษาอาการขาดไบโอตินค่ะ ซึ่งคนที่ต้องการรับประทานวิตามินไบโอตินเสริมนั้น ได้แก่ ผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมเสียจากการย้อม ยืด ดัด โกรก ทำสีผม ซึ่งสารเคมีที่ใช้กับผมเหล่านี้ทำให้เส้นผมอ่อนแอลง เส้นผมจึงมีอาการหลุดร่วงง่าย, ผู้ที่มีปัญหาเล็บเปราะบาง ฉีกง่าย ที่เกิดจากการขาดไบโอติน และถ้าใช้ไบโอตินควบคู่กับตัวยา Nu-Encap ที่มีลักษณะเป็นยาทาลงบนผิวเล็บ ก็จะทำให้ประสิทธิภาพการรักษาเพิ่มขึ้นค่ะ และไบโอตินยังเหมาะสำหรับผู้ที่รับประทานยาปฏิชีวนะต่อเนื่องเป็นเวลานาน ซึ่งจะทำให้แบคทีเรียในลำไส้สร้างไบโอตินได้น้อย จึงทำให้ไบโอตินไม่เพียงพอต่อการนำไปใช้ของร่างกาย ก็ควรรับประทานวิตามินไบโอตินเสริมเช่นกันค่ะ 

มาถึงตรงนี้ถ้าย้อนกลับไปทุกคนอาจจะสะดุดตาและยังคงข้องใจกับตัวยา Nu-Encap ที่พาริสได้พูดถึงไปก่อนหน้าว่าคืออะไร พาริสจึงขออนุญาตอธิบายขยายความตรงนี้เพิ่มเติม เพื่อความเข้าใจในการรักษาที่มากขึ้นให้ด้วยค่ะ Nu-Encap คือตัวยาที่ช่วยในการดูแลรักษาผิว มีลักษณะเป็นเจลทา เมื่อทาลงบนผิวจะกระจายตัวและนำส่งสารสำคัญเข้าสู่ผิวอย่างต่อเนื่อง และนำไปสู่เซลล์เป้าหมายตามที่ต้องการได้ เพื่อช่วยรักษาอาการเล็บเปราะบาง ฉีกขาดง่าย รวมไปถึงรักษาอาการเชื้อราที่เล็บด้วยค่ะ และเมื่อใช้ควบคู่กันกับการทานไบโอตินก็จะยิ่งช่วยเสริมให้ตัวยามีประสิทธิภาพได้สูงสุด ทำให้ไม่ต้องทายาบ่อย ๆ หรือไม่จำเป็นต้องใช้ยาทาติดต่อกันเป็นเวลานานด้วยค่ะ

ขนาดรับประทานที่เหมาะสม ที่ช่วยบำรุง ป้องกัน และรักษาอาการต่างๆ ดังนี้

- เพื่อลดอาการหลุดร่วงของเส้นผม ควรรับประทาน 2,400 ไมโครกรัม หรือ 4 แคปซูลต่อวัน

- เพื่อบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง ควรรับประทาน 1,200 ไมโครกรัม หรือ 2 แคปซูลต่อวัน

- เพื่อรักษาอาการเล็บประบาง ฉีกง่าย ควรรับประทาน 2,400 - 3,600 ไมโครกรัม หรือ 4-6 แคปซูลต่อวัน

- เพื่อป้องกันการขาดไบโอติน ควรรับประทาน 600 - 1,000 ไมโครกรัม หรือ 1-2 แคปซูลต่อวัน

วิธีรับประทาน : รับประทานวันละ 1 แคปซูล หรือตามแพทย์สั่ง

สำหรับพาริสเองรับประทานวันละ 4-6 แคปซูลต่อวันค่ะ เพื่อช่วยรักษาอาการเล็บเปราะบาง ฉีกง่าย แต่ยังได้ปริมาณที่เพียงพอสำหรับช่วยลดอาการหลุดร่วงของเส้นผมได้ด้วยค่ะ 

หรือสำหรับใครที่เริ่มเห็นว่าเล็บของตัวเองผิดปกติ หรือมีปัญหา ควรไปปรึกษาเภสัชกรดูก่อนตัดสินใจรับประทานวิตามินไบโอตินเสริมนะคะ เภสัชกรจะได้แนะนำปริมาณที่ควรรับประทานที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกายที่ขาดไบโอตินของแต่ละคนได้ค่ะ 

สำหรับพาริสเองมีปัญหาการหลุดร่วงของเส้นผมง่าย ทำให้เส้นผมบนหนังศีรษะบางมาก และอีกปัญหาหนึ่งก็คือ อาการเล็บเปราะบาง ฉีกง่าย โดยอาการที่พาริสเจอคือไม่สามารถไว้เล็บยาวได้เลย ถ้าเล็บยาวเกินปลายนิ้วออกมาแค่นิดเดียว ไปชน ไปโดนอะไรเข้าหน่อยก็จะเปราะ หัก ฉีกได้ง่ายมาก ๆ จึงต้องตัดเล็บให้สั้นตลอด แต่ไม่วายช่วงขอบเล็บด้านข้างยังฉีกอยู่ประจำ จนต้องพกกรรไกรตัดเล็บไว้ตัดออกตลอด เป็นสิ่งที่น่ารำคาญมากๆ เลยค่ะ ถ้าใครเป็นบ่อยๆ จะเข้าใจดีเลย ดึงออกก็ไม่ได้ มีแต่ฉีกไปหน้า แถมยังทำให้เจ็บหรือเลือดออกได้อีกด้วย จึงได้แค่คอยตัดเล็มออกเท่านั้นค่ะ

 

ตอนแรกที่ได้วิตามินไบโอตินมาก็กะว่าจะทานคนเดียว แต่ไปเจอเล็บเท้าของคุณแม่ที่เป็นเชื้อรา จากการสวมรองเท้าบูททำงานและเข้าสวนเป็นเวลานานทุกวัน และไบโอนตินนี้สามารถช่วยรักษาเชื้อราที่เล็บได้ด้วย พาริสจึงให้คุณแม่ทานด้วยค่ะ โดยคุณแม่จะทานไบโอตินควบคู่กับการทายา Nu-Encap ร่วมด้วย เพื่อเป็นการรักษาเชื้อราที่เล็บให้ได้ประสิทธิภาพสูงที่สุดค่ะ และคุณแม่ก็ทา Nu-Encap วันละ 2 ครั้ง ทุกวันเช้าและก่อนนอนอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกันค่ะ

ความรู้สึกหลังรับประทานต่อเนื่องก็รู้สึกว่าเส้นผมและเล็บมีความแข็งแรงขึ้น เล็บไม่ค่อยเปราะฉีกง่ายเหมือนเมื่อก่อน ส่วนเรื่องการรักษาเชื้อราที่เล็บ หลังจากที่ได้ทานไบโอตินควบคู่กับทาตัวยา Nu-Encap ก็ได้ผลการรักษาที่ดีขึ้นค่ะ ดูได้จากภาพด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ

แต่พาริสขอต้องขอย้ำก่อนนะคะว่า ตัวยาทุกอย่างต้องใช้เวลาในการรักษาอย่างต่อเนื่อง จึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ดี วิตามินไบโอตินตัวนี้ก็เช่นกันค่ะ อาจจะไม่ได้ดีขึ้น 100% ใน 1 กระปุก แต่ก็ต้องรับประทานต่อเนื่องเพื่อเสริมสร้างส่วนที่ขาดให้กับร่างกาย ค่ะ เมื่อร่างกายเราได้รับในปริมาณที่เพียงพอ ก็จะเกิดการรักษาและซ่อมแซมได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้น

สำหรับใครที่สนใจอยากซื้ออยากหามารับประทานดูบ้าง หรือสนใจติดตามข้อมูลข่าวสารและโปรโมชั่นต่างๆ ของทางแบรนด์ สามารถติดตามได้ที่ช่องทางตามด้านล่างนี้เลยจ้า....

Facebook : Nature Balance
Line@ : @Balance360degree
Call Center : 027939999